วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2550

บทที่ 02 ชีวิตที่เลือกเกิด...ไม่ได้ ตอน 1


6 กรกฎาคม 2543 วันพฤหัสบดี เวลา 13.50 น. ณ. โรงพยาบาล รัฐบาลแห่งหนึ่ง คลอดด้วยน้ำหนัก 2,200 กรัม...ฉันนอนรอลูกให้มากินนม คืนที่ 1 ลูกยังไม่มา หมอบอกเด็กตัวเล็กตัวเหลืองต้องอยู่ตู้อบ

คืนที่ 2...ก็ยังไม่มา

คืนที่ 3... 3 คืน ไม่มา...ไม่ได้แล้ว...ลูกคลอดมา 3 วัน ยังไม่เห็นหน้ากันเลย
ฉันเดินไปในขณะเจ็บแผลจากการคลอดอยู่ เพื่อหาลูกว่าเค้าเป็นอะไรหรือเปล่า เกิดอะไรขึ้นกับลูกของฉัน ...ไม่เป็นไร ยังไงก็จะต้องไปหาลูกก่อน...เค้าอยู่ในห้องไอซียูเด็ก

ณ.....ห้องไอซียูเด็ก ข้อมือเลขที่ 50 ที่ทั้งแม่และลูกเลขตรงกัน เห็นหน้าลูกครั้งแรก...หัวใจแทบสลาย เพราะสารพัดสายถูกโยงใยเต็มตัวลูกหินไปหมด...พึ่งเกิดมาแท้ๆก็ต้องมาทรมานด้วยอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะไปหมด ฉันเข้าไปถามหมอ...เพื่อหาคำตอบว่าลูกเป็นอะไร ต้องทำยังไง คุณหมอคงเห็นว่า ฉันไม่พร้อมที่จะฟังความจริง เพราะยังเพิ่งอยู่ในระยะพักฟื้นร่างกากย

ฉันได้แต่นั่งเฝ้าหน้าห้องไอซียู มองผ่านกระจกไปวันๆ...ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ หมอบอกว่าลูกหินตัวเหลือง...แต่สภาพที่เห็น..น่าจะมันเป็นมากกว่านั้น...แล้ว เค้าเป็นอะไร???

ฉันเพิ่งเป็นคุณแม่มือใหม่...ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร...ต้องเริ่มต้นจากทางไหน รู้แต่เพียงว่าถ้าเราเชื่อหมอ และปฏิบัติตามคำสั่งของหมอ คงเป็นหนทางที่ทำให้ลูกปลอดภัยที่สุด...หมอสั่งให้ฉันกลับบ้านได้ หลังจากคลอดมา 7 วัน แต่ลูกชายยังต้องอยู่โรงพยาบาล เพราะยังไม่แข็งแรง...ดูดนมก็ยังไม่เป็น...ต้องให้นมทางสายยางผ่านจมูกไปก่อน...ต้องฝึกดูดนมให้ได้ก่อนจึงจะกลับบ้านได้

อ๋อฉันรู้แล้ว... ถ้าลูกจะกลับบ้านได้ลูกต้องดูดนมให้ได้...เราจะต้องมาหาลูก มาฝึกให้ลูกดูดนมให้ได้...หนูจะได้กลับบ้านเร็วๆ เมื่อถึงบ้านฉันและสามีกลับมาด้วยความห่อเหี่ยว...นอนเจ็บปวดหัวใจ ว่าทำไมไม่เหมือนคนอื่นๆที่เค้าคลอดแล้วพาลูกกลับบ้านได้ ไม่เป็นไร ... แม่จะอดทน ทำตามคำสั่งคุณหมออย่างเคร่งครัด เพราะแม่มีเป้าหมายว่าหมอจะรักษาลูกของแม่อย่างดี

ฉันเดินไปหาลูกทุกวัน...ฝึกให้ดูดนม เพราะรู้อย่างเดียวว่าถ้าเมื่อไหร่ลูกดูดนมได้วันนั้นลูกจะได้กลับบ้าน

ความพยายามได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ( 1 เดือน ต่อมา)
ไชโย!!! ลูกหินดูดนมได้ หมออนุญาตให้กลับบ้า ฉันได้ลูกกลับบ้านด้วยความดีใจ อีกใจหนึ่งก็งงว่าตกลงลูกปกติหรือว่าผิดปกติกันแน่ ... แต่ชั่งมัน...ผลจะเป็นยังไงก็ช่าง ตอนนี้รู้อย่างเดียวว่าลูกหินกลับบ้านได้แล้ว

1 ความคิดเห็น:

น้องตูน กล่าวว่า...

คุณแม่นกเป็นคนที่มีความอดทนมาก ๆ เลยคะ
เป็นกำลังในให้นะคะ