วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2550

บทที่ 07 แก้ความกลัว...ด้วยความรู้

เมื่อฉันยอมรับในความพิการของลูก พิสูจน์จากหมอหลายโรงพยาบาล ซึ่งคำตอบก็ตรงกันทุกที่ ฉันจึงยอมรับความจริงว่าลูกพิการ... แม้มันทำให้ครอบครัวของเรา เจ็บปวด ทรมานจากความจริง ก็ตาม แต่อย่างน้อยเราก็อยู่กับปัจจุบัน ถ้าฉันยอมรับความจริงไม่ได้ คนที่จะแย่กว่าฉัน คือ “ลูก” ปากเราบอกว่ารักลูก แต่ทำใจไม่ได้สักที ลูกเราก็จะแย่ มันแสดงให้เห็นทันทีว่าเรารักตัวเองมากกว่าลูก ...เหตุผลนี้แหละที่ทำให้ฉันต้องรีบทำใจ รีบเข้าใจความจริงให้เร็ว ความเศร้า...ความเสียใจ... แน่นอนมันจะต้องมี แต่อย่าให้มันยาวนานเกินไป ต้องรีบทำใจเข้มแข็ง มีสติ...คิดหาวิธีที่จะช่วยรักษาลูกจะดีกว่า

หมอ...คงเป็นหนทาง รักษาลูกอย่างดี...ตอนนั้นฉันคิดอย่างนั้น ถ้าหมอเก่งเชื่อฟังปฏิบัติตามคำสั่ง...ลูกหินคงดีขึ้น มันเป็นความคิดพื้นฐานที่ทุกคนต้องคิด ลูกป่วยรุนแรง...ฉันเองก็ไม่แตกต่าง...เราฝากความหวัง ความเชื่อ ว่าหมอ ทุกแผนกจะทำให้ลูกเราดีขึ้น ใครว่าหมอที่ไหนดี รักษาเก่ง เราจะพาไปเข้าคิวรักษา...เพียงเพราะหวังว่าเขาจะทำให้อาการลูกของเราดีขึ้นบ้าง


11.jpg

คืนหนึ่งในวันอาทิตย์ ฝนตกฟ้าร้อง เสียงดัง คำราม ตลอดทั้งคืน
เด็กน้อยวัยเพียง 7-8 เดือน กำลังนอนหงาย มือทั้งสองข้างกำมือแน่นขายืดยาวเกร็งปลายเท้าจิก ตาหลับไม่ลงคงเป็นเพราะเสียงฟ้าร้องที่ดังกันอย่างต่อเนื่อง ลูกหินนอนเกร็งทั้งตัว ทั่วร่างกาย และเพิ่มปริมาณการเกร็งมากขึ้น มากขึ้นจนในที่สุด...ตัวลูกหินเปลี่ยนจากเกร็งเป็นสั่นกระตุกไปทั้งตัว

ฉันต้องทนเฝ้ามองดูลูกทรมาน และเจ็บปวดใจเหลือเกิน...น่าแปลก หัวใจเป็นอวัยวะที่อยู่ภายใน ทำไมฉันรู้สึกเจ็บปวดได้ ไม่รู้จะทำอย่างไร ให้ลูกดีขึ้นจากอาการเกร็งที่รุนแรงของลูก กายภาพที่โรงพยาบาล เราก็ไปอย่างสม่ำเสมอ ไม่เคยขาด

แต่อาการของลูกคืนนี้น่ากลัวมาก...ฉันจะทำยังไงให้ลูกหินไม่เกร็งกระตุ้นขนาดนี้สงสารลูกจับใจ ... น้ำตาไหลคลอเบ้าตาตลอดเวลา
เพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีเพื่อช่วยลูก ...ขอเป็นเองดีกว่า

ฉันเอาผ้าเช็ดตัวพันห่อตัวลูกชายไว้ แล้วกอดเค้าให้แน่น ...หวังว่าอ้อมกอดของฉันจะทำให้ลูกจะหยุดสั่น แทบไม่น่าเชื่อ !!!! เด็กตัวเล็กนิดเดียวมีแรงเยอะมาก มากจนฉันอุ้มไม่ไหว จนต้องเปลี่ยนเป็นให้นอนบนเตียงแทน ..แล้วโน้มตัวลงไปกอดเพื่อจะช่วยให้ลูกหยุดการสั่น ทำยังไงลูกก็ไม่หายสั่น

6.jpg

คืนนั้น ...เราต้องทนเห็นลูกทรมานจากการเกร็งทั้งคืน โดยที่แม่อย่างฉันช่วยอะไรเค้าไม่ได้เลย ได้แต่น้ำตาไหลนอง อยู่ข้างๆลูก สงสารลูกจับหัวใจ ได้แต่นั่งมองดูเวลา เร่งเวลาให้เช้าเร็วๆ เพื่อจะพาลูกไปทำกายภาพ เพราะคิวลูกจะต้องทำกายภาพทุกวันจันทร์ ...ฉันแอบฝากความหวังไว้ที่นักกายภาพว่าเค้าจะสามารถช่วยให้ลูกชายของฉันหายสั่น จากอาการเกร็งได้

ครอบครัวเราออกเดินทางกันแต่เช้า ไปรอนักกายภาพ...ท่านเองก็ใจดีพอสมควร จะให้คิวลูกหินก่อนอันดับแรก และให้เวลาตั้ง 1 ชั่วโมงในการทำกายภาพ

เมื่อถึงเวลานัด เราเล่าอาการของลูกหิน ว่าเค้ามีอาการเกร็งสั่นกระตุกไปหมด ขนาดมาถึงนักกายภาพลูกหินก็ยังมีกระตุกอยู่เลย
ความหวังของฉันคิดว่าวันนี้นักกายภาพต้องกายภาพจนลูกหินหยุดสั่นได้ นักกายภาพบอกเราว่านี่คืออาการเกร็งที่มีปริมาณมาก บวกกับฝนตกฟ้าร้อง เด็กตกใจ...และไม่ชอบ เลยทำให้เกร็งไม่หยุด พอเกร็งมากๆๆเข้ามันจะสั่นด้วย

วันนั้นท่านเองก็กายภาพลูกหินอย่างสุดความสามารถ...แต่ลูกหินก็ยังสั่น...ต่อไปไม่หยุด เพียงแต่สั่นน้อยลง นักกายภาพก็ยังไม่สามารถช่วยลูกตามที่ฉันแอบหวังได้ แสดงว่าวิธีที่ฉันช่วยลูกในการพึ่งหมอ ปฏิบัติตามคำสั่งหมอ มันไม่เพียงพอต่อการรักษาลูก..เค้าถึงได้ทรมานอย่างนี้

ฉันลองเกร็งตัวดูประมาณ 5 นาที รู้สึกว่าตัวเองปวดอย่างมาก มันปวดตึงไปหมกทั่วบริเวณที่ทดลอง...อยากรู้ว่าลูกเค้าจะทรมานขนาดไหน ยังไง เลยทดลองทำเอง แล้วก็ค้นพบว่า ลูกทนได้อย่างไร หมอเองบอกว่าลูกหินเป็นชนิดเกร็งทั้งตัวตลอดเวลา ขนาดฉันทดลองตัวเองเพียง 5 นาที ยังทรมานเลย ...ลูกเป็นเด็กเก่งมากที่สามารถทนอะไรได้ขนาดนั้น ... แล้วจะไม่ให้ฉันอดทนเพื่อลูกได้อย่างไร???

ลูกเกร็งตลอด 24 ช.ม. × 7 วัน = 168 ช.ม. แต่เรากายภาพเพียง 1 ช.ม. เท่ากับลูกเกร็ง 167 ช.ม. จะสบายตัวเพียง 1 ช.ม.
มิน่าลูกถึงได้สั่นไปทั่วทั้งตัว...ถ้าฉันมัวแต่ขอความช่วยเหลือจากคนอื่น รอนักกายภาพในการรักษาลูก ลูกจึงทรมานอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ...บอกตัวเองว่าฉันจะทำทุกวิถีทางไม่ให้เหตุการณ์ฝนตกฟ้าร้องอย่างคืนนั้นทำให้ลูกทรมานอีกเป็นครั้งที่ 2 อีกแน่นอน

ฉันจดท่าทางต่างๆ ที่เห็นนักกายภาพทำให้ลูกแปะไว้ข้างฝาบ้าน...เมื่อไรที่ลืมก็จะสามารถอ่านได้ทันที โดยไม่ต้องเปิดสมุดบันทึก...ต้องช่วยลดอาการเกร็งของลูกให้ได้ความรักลูกอย่างมีสติ หาความรู้ เรื่องโรคที่ลูกเป็นอยู่อย่างสม่ำเสมอ และคิดว่าวิธีนี้น่าจะเป็นอีก 1 วิธี ที่จะช่วยลูกให้พ้นวิกฤตต่างๆ ไปได้

7.jpg

นั่นแค่ปัญหาเรื่องเกร็ง เป็นเรื่องแรกที่เราต้องฟันฝ่า...ได้บ้างไม่ได้บ้าง
มันส่งผลให้ลูกหิน หลับบ้าง ไม่หลับบ้าง ...
กลายเป็นปัญหาใหญ่...ตามมา

ไม่มีความคิดเห็น: